หากพูดถึงดีไซน์เนอร์ที่ชื่อ Virgil Abloh หลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่าเขาคือใคร มีความสำคัญอย่างไร แต่ถ้าหากพูดถึงแบรนด์ Off-White สายสตรีทแฟชั่นทั้งหลายจะต้องร้องอ๋อ!!อย่างแน่นอน

RIP Virgil Abloh
.
จุดเริ่มต้นของ Virgil Abloh บนเส้นทางแฟชั่นคือ การที่เขาได้เริ่มไปฝึกจากที่ Fendi กับเพื่อนสนิท และได้พบกับ คานเย เวสต์ที่ได้เอ่ยปากชวนเขาไปที่งาน Paris Fashion week ในปี 2009 ซึ่งที่นั่นกลุ่มของเขาได้ถูกถ่ายรูปและได้กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่ว
ต่อมาเขาได้เริ่มก่อตั้งแบรนด์ของตัวเองที่นำเสื้อผ้าเก่าที่ตกค้างในโกดังของแบรนด์ดังๆ มาสกรีนตกแต่งเพิ่มแล้วขายในราคาที่สูงขึ้น แบรนด์นี้ของเขาก่อตั้งได้เพียง 1 ปี ก็ปิดตัวลง และเขาก็ได้หันมาทำแบรนด์ Off-White อย่างจริงจัง

RIP Virgil Abloh
โดยจุดเด่นของแบรนด์อยู่ที่ การนำสินค้าทั่วไปของสตรีทแวร์มาดีไซน์ใหม่ และผลิตในโรงงานชั้นนำ ผสานกับเนื้อผ้าและวัสดุไฮเอนท์ นอกจากที่เขาจะยังคงมีโชว์ตามงาน Paris Fashion week แล้ว เขายังอาศัยการทำการตลาดบนโลกโซเชียลมีเดีย โดยการแจ้งขายสินค้าแบบจำนวนจำกัดลงบน IG ล่วงหน้าเพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งการตลาดแบบนี้ทำให้ลูกค้าของเขาเกิดการอยากได้และรู้สึกว่าจะต้องมีไว้สะสม หรือเพื่อเก็งราคาในอนาคต
นอกจากนั้น Virgil Abloh ยังพา แบรนด์ Off-white ไปร่วมทำโปรเจกต์กับแบรนด์อื่นๆที่มีชื่อเสียงทางสังคมอยู่เรื่อยๆ ทำให้เขาได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่เป็นลูกค้าเฉพาะทางของแต่ละแบรนด์ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเป็นเจ้าของสินค้าของ Off-White ด้วยราคาที่สูงเกินไป แต่สามารถมาซื้อสินค้าที่เขาร่วมออกแบบดีไซน์ให้กับแบรนด์อื่นได้ในราคาที่ถูกกว่า
ตลอดระยะเวลา 5 ปี เขาพาแบรนด์ Off-White เปิดหน้าร้านไปทั่วโลก ได้เข้าชิงรางวัลต่างๆมากมาย และเขายังกลายเป็น 1 ในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของนิตยสาร Time
จากจุดนี้อาจทำให้หลายคนสงสัยในผลงานเอกลักษณ์การดีไซน์ของเขา ว่ามีจุดเด่นอย่างไรจึงนำพาแบรนด์เติบโตและไปได้ไกลขนาดนี้ แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่เขานำมาใช้ในงานดีไซน์นั้นเป็นเรื่องที่เบสิกมากๆ เขาได้ใช้ เครื่องมือง่ายๆ เช่น ฟ้อนท์ตกแต่งที่สามารถดาวน์โหลดฟรีได้ทั่วไปมาใช้ในผลงาน ใช้กฎใส่ความเป็นตัวเองของเขาลงไปในงานออกแบบเพียง 3% ทำให้เขาได้ครองใจกลุ่มเด็กๆยุคใหม่ ที่รู้สึกว่าการเป็นดีไซน์เนอร์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินตัว แต่ต้องรู้จักเล่นกับรายละเอียดและมีเอกลักษณ์ของตัวเอง
ผลงานล่าสุดที่เขาได้ฝากไว้ในโลกแฟชั่น คือการที่เขาได้ร่วมงานกับแบรนด์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Louis Vuitton ในคอลเลกชั่น Spring/Summer 2019 ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก และได้รับการวิจารณ์ไปทั่วเนื่องจากเขาหยิบเอากระแสเรื่องความหลากหลายมาใช้โชว์บนเวทีแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นเวทีโชว์สีรุ้ง แคสนายแบบจากทุกเชื้อชาติ หรือแม้แต่การที่ตัวเขาเป็นอาร์ทิสติกไดเรกเตอร์ผิวสีคนแรกของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมา ทุกๆจุดในโชว์ล้วนสะท้อนถึงคำว่า หลากหลายได้เป็นอย่างดี และเขายังส่งมอบแรงบันดาลใจโดยการเชิญนักศึกษากว่าพันคนมาร่วมชมการแสดงอีกด้วย
ซึ่งการทำคอลเลคชั่นนี้ของเขา ก็เป็นหนึ่งในการตอบสนองความต้องการต่อตัวเอง ว่าถึงแม้เขาจะไม่ได้เรียนจบสายแฟชั่นมาโดยตรง แต่ก็สามารถทำงานทางแฟชั่นและก้าวมาถึงจุดที่ร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกได้
หลายคนเคยปรามาสเขาไว้ก่อนมาร่วมงานกับ Louis Vuitton ว่าจะเป็นเพียงเสื้อผ้าแบรนด์ Off-White ที่นำมาแปะโลโก้ของ Louis Vuitton เข้าไปแค่นั้นหรือเปล่า แต่ Virgil แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาทำได้ดีกว่านั้น ทั้งการดึงเรื่องเด่นๆอย่าง Tailoring มาใช้ การใช้ความรู้เรื่องแฟชั่นชั้นสูงมาผสานเข้ากับสิ่งที่คนยุคใหม่ต้องการได้อย่างลงตัว
Virgil Abloh ได้เสียชีวิตลงจากโรคมะเร็งหลอดเลือดหัวใจด้วยวัยเพียง 41 ปี แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้ในโลกแฟชั่นคือแรงบันดาลใจ ความเชื่อมั่นในศิลปะ และการใช้เครื่องมือง่ายๆที่มีอยู่แต่มีเอกลักษณ์ ส่งต่อไปยังดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ในรุ่นถัดไป

RIP Virgil Abloh
อ้างอิง: